หน้าเว็บ

22 เม.ย.64 @ "คำพิพากษาศาลฎีกา" คดีที่ 2 อาญา_หมิ่นประมาท ตอนที่ 2/2 @ ยื่นโนติส (์Notice) หลังฟังคำพิพากษาศาลฎีกา "ยืนยกฟ้อง"

สวัสดีครับทุกท่าน ถนนแห่งการต่อสู้ขับเคลื่อนกับการทุจริตคอรัปชั่นและประพฤติมิชอบ โกงสิทธิ์คนพิการตามกฎหมายการจ้างงานคนพิการ โดยพวกกลุ่มทุจริตที่ประกอบด้วยองค์กรคนพิการจำนวนมาก ข้าราชการที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก และยังมีองค์กรเอกชนบางแห่งร่วมด้วย กำลังถึงทางแยกใหญ่ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ แม้ว่าระหว่างเส้นทางที่ผ่าน จะมีอุปสรรคจากการถูกรุมฟ้องและถูกแจ้งความดำเนินคดี มากถึง 8 คดี ก็ตาม เมื่อได้ฟังคำพิพากษาศาลฎีกาแล้วทำให้ถึงทางแยกที่เราต้องแบ่งกำลังกระจายออกไป โดยเริ่มจากส่วนตัวผมนั้นได้ยื่นโนติส (Notice) เรียกค่าเสียหายที่เกิดจากการถูกฟ้องตลอด 3 ปี แล้วทำให้ไม่ได้ทำมาหาได้ จนสูญเสียรายได้อย่างร้ายแรง และเสื่อมเสียชื่อเสียง จำนวน 2 ฉบับ (สำหรับ 2 คดี) โดยผมขอนำหนังสือโนติส ฉบับที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้มาแบ่งปันทุกท่านครับ

สามารถอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ได้ที่ลิงก์นี้ครับ

สามารถอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้ที่ลิงก์นี้ครับ

เพื่อประกอบความรู้กับผู้อ่านทุกท่าน ผมจะได้ขอแบ่งปันแนวทางการต่อสู้ของเรา หากท่านใดต้องถูกฟ้องแบบผม แล้วชนะคดี (คดีถึงที่สุด) และเรามีความประสงค์จะฟ้องกลับ เราควรทำหนังสือแจ้งให้ฝ่ายตรงข้ามทราบกัน ส่วนตัวอาจเรียกได้ว่าเป็นมารยาท ก็ได้นะครับ คงคล้ายๆ กับที่ทางเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการทำหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานรัฐก่อน ตัวอย่างจริงเรื่องการโกงสิทธิ์คนพิการ หลายปีผ่านไปสิ่งที่เกิดขึ้นคือ เราทราบว่าข้าราชการร่วมทุจริตด้วย ดังนั้นหลังจากให้เกียรติแจ้งข้อมูลแล้วกลับไม่ทำอะไร ซ้ำร้ายยังกลับไปแก้ระเบียบปฏิบัติ และช่วยข้าราชการที่กระทำผิดใงห้พ้นผิด เราก็ไม่ต้องเกรงใจต่อไป การยื่นหนังสือโนติส จึงเป็นขั้นตอนที่เราควรทำ ก่อนที่เราจะฟ้องกลับ ผมแอบนึกถึงสมัยโบราณ ที่มีหนังสือจากประเทศหนึ่งไปยังประเทศหนึ่งว่า ถ้าไม่ยอมแพ้ คงต้องรบกัน อารมณ์ดูหนังโบราณทั้งในและต่างประเทศบ่อยครับ








สำหรับหนังสือโนติส (Notice) ฉบับนี้ ก็ชัดเจนถึงพฤติกรรมของฝ่ายตรงข้าม ที่ไม่ยอมเลิกรา และยังตามฟ้องไม่เลิกจนถึงชั้นฎีกา ทั้งๆ ผู้นำคนพิการในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คนนี้รู้ความจริงทุกเรื่องทั้งการประพฤติชั่วของตัวเอง และความเมตตาปราณีที่ครอบครัวผมมีให้ครอบครัวของเขา ดังนั้นจากนี้ต่อไป คำสาบานที่เขาสาบานในศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย จังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน คำสาบานจะสัมฤทธิ์ผลตามที่เขาได้กล่าวเอาไว้อย่างแน่นอน ครับ

เฉพาะคดีนี้ ผมเรียกค่าเสียหายไป 7.6 ล้านบาท (เจ็ดล้านหกแสนบาทถ้วน) ในโํอกาสต่อไป ผมคงจะนำวิธีคิดค่าเสียหายมาแบ่งปันผู้อ่านทุกท่าน ว่าเรามีวิธีคิดค่าเสียหายแต่ละเรื่อง แต่ละด้านอย่างไรบ้างนะครับ สำหรับการรุกกลับ ฟ้องกลับ ในปี 2564 นี้ ผมจะได้นำมาแบ่งปันอย่างแน่นอนครับ


พิมพ์เผยแพร่เมื่อ 28 เม.ย..64

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น