หน้าเว็บ

12 พ.ย.63 @ "คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1" คดีที่ 3 อาญา_หมิ่นประมาท ตอนที่ 1/2 @ พิพากษายกฟ้อง ยืนตามผู้้พิพากษาศาลชั้นต้น

สวัสดีครับทุกท่าน คดีที่ตัวผมให้ความสำคัญมากที่สุด จากทั้งหมด 5 คดี เนื่องจากฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ตำแหน่ง "นิติกรชำนาญการ" คนที่ควรทำหน้าที่ช่วยเหลือคนพิการ ครอบครัวคนพิการ อย่างถึงที่สุด แต่ในท้ายที่สุด ถึงแม้ว่าจะไม่มีหลักฐานว่าเจ้าหน้าที่รัฐผู้นี้เป็นผู้ทุจริตคอรัปชั่น ผมขอย้ำว่า ผมยังไม่มีหลักฐานนะครับ อนาาคตข้างหน้าผมอาจมีหลักฐานก็ได้ แต่การกระทำของนิติกรท่านนี้ ผมมั่นใจเหลือเกินว่า เป็นการทุจริตประพฤติมิชอบ อย่างแน่นอน ฟ้าดินรู้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทราบดี ตัวนิติกรคนนี้ก็ย่อมรู้ดีว่า ตัวเขาเองประพฤติดีหรือชั่วอย่างไร 

ในรายละเอียดของ "คำพิพากษา" ของคณะผู้พิพากษาทั้ง 3 ท่านของศาลอุทธรณ์ภาค 1 นั้น สามารถเป็นคำตอบที่ค้างคาให้กับคำถามที่อาจจะยังมีตกค้างในใจของใครหลายๆ คนได้ รวมถึงตัวผู้ฟ้อง คือ นิติกรชำนาญการคนนี้ได้ ก็เป็นได้ครับ ส่วนตัวก็เพียงลุ้นว่า นิติกรคนนี้จะฎีกา ต่อหรือไม่ คดีนี้จะยืดเยื้อไปอีกนานแค่ไหน เพราะในช่วงเวลานี้ ปลายปีของปี 2563 ผมมีเจตนาที่จะพิมพ์บทความนี้เผยแพร่ในช่วงส่งท้ายปีเก่า เพราะปีหน้า 2564 ผมและสมาชิก "เครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ" จะมีสถานะเป็น "โจทก์" แทนใครหลายๆ คน ที่ตอนนี้มีรายชื่อเข้าข่ายที่จะร่วมกันทุจริตคอรัปชั่น และทุจริตประพฤติมิชอบ เกือบ 50 คน หรืออาจมากกว่านั้นครับ ดังนั้นสำหรับชุดบทความ 2 ตอนนี้ คงพอที่จะเป็นเรื่องดีๆ ส่งท้ายปีเก่า 2563 ได้เป็นอย่างดี เป็นเรื่องดีๆ เป็นกำลังใจให้กับผู้เสียหายครอบครัวคนพิการทุกคนครับ

ผมขอแบ่งเนื้อหาสำคัญๆ ไว้ 11 ข้อ ซึ่งผมจะมีคำอธิบายเพิ่มเติม ขยายความตามความเห็นส่วนตัว และบางข้ออาจมีกล่าวถึงความเป็นมา หรือความเกี่ยวข้อง เพิ่มเติม ประกอบบทความ เพื่อความรู้ และประโยชน์ ของผู้อ่าน ด้วยครับ

คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 เมื่อ 4 พ.ย.63 อ่านเมื่อ 12 พ.ย.63 หน้าที่ 12/12

คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 เมื่อ 4 พ.ย.63 อ่านเมื่อ 12 พ.ย.63 หน้าที่ 1/12

"ผมอยากอธิบายเพิ่มเติมให้ผู้อ่านทราบเรื่องวันที่ นะครับ คือ หากสังเกตจะเห็นว่า คำพิพากษานั้นจะลงวันที่ 4 พ.ย.63 ผมได้รับหมายศาลให้มาฟังคำพิพากษาวันที่ 12 พ.ย.63 ครับ ซึ่งโดยปกติแล้วการจะขอสำเนา อาจจะต้องหลังจากวันอ่านคำพิพากษาไปอีกอย่างน้อย 7 วัน แต่ในวันนั้น ท่านผู้พิพากษา ได้อนุญาตให้คัดสำเนาได้เลยทันที ทำให้มีการรับรองสำเนาในวันเดียวกันกับวันฟังคำพิพากษา ครับ"

คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 เมื่อ 4 พ.ย.63 อ่านเมื่อ 12 พ.ย.63 หน้าที่ 2/12

คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 เมื่อ 4 พ.ย.63 อ่านเมื่อ 12 พ.ย.63 หน้าที่ 3/12

คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 เมื่อ 4 พ.ย.63 อ่านเมื่อ 12 พ.ย.63 หน้าที่ 4/12

สำหรับจุดสังเกตที่ 1-2 หรือข้อ 1-2 นั้นระบุว่า "โจทก์ทั้ง 2 อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์เฉพาะโจทก์ที่ 1 ไม่รับอุทธรณ์โจทก์ที่ 2" ผมขออธิบายเพิ่มเติมในเหตุนี้ ซึ่งต้องยกความดีทั้งหมดให้กับทนายอาสา ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ที่ดูเอกสารโดยละเอียดที่ฝ่ายโจทก์ได้มีการยื่นเรื่องขอขยายเวลาในการยื่นอุทธรณ์ถึง 3 ครั้ง ด้วยหลายสาเหตุ แต่ปรากฎว่า ในระหว่างยื่นคำร้องขอขยายเวลานั้น โจทก์ที่ 1 ไม่ได้เขียนถึงโจทก์ที่ 2 ทำให้โจทก์ที่ 2 เปรียบเสมือนไม่ได้ขอขยายเวลาการยื่นคำร้องอุทธรณ์ไปโดยปริยาย เหตุนี้เอง ในการเขียนแก้อุทธรณ์ของฝ่ายผม จึงได้ชี้จุดสังเกตนี้เรียนท่านผู้พิพากษาไว้ด้วยครับ

คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 เมื่อ 4 พ.ย.63 อ่านเมื่อ 12 พ.ย.63 หน้าที่ 5/12

สำหรับข้อ 3 นั้น นิติกรคนนี้อาจจะลืมอุทธรณ์ในส่วนแพ่งไว้ด้วย ส่วนตัวผมเดาเหตุการณ์ไว้ว่า ทางกลุ่มผู้ใหญ่ของนิติกรคนนี้ คงกำลังจะหาเหตุผล หรืออาจจะถึงขั้นสร้างพยานหลักฐาน เพื่อสนับสนุนเหตุผล ให้มีความเหมาะสมพอเพียงกับการช่วยเหลือให้นิติกรคนนี้ พ้น "ความผิดวินัยร้ายแรง" ให้เป็น "ผิดวินัย" ในขั้นตอนของระดับกระทรวง ชัดเจนนะครับว่า หากช่วยในระดับกระทรวง ผู้อ่านลองคาดการณ์เอาเองว่า คำว่าผู้ใหญ่ที่จะช่วยเหลือนิติกรคนนี้ ควรจะมีตำแหน่งถึงระดับไหนได้บ้าง 

และเหตุแห่งการต้องช่วยเหลือ "นิติกรชำนาญการ" คนนี้ให้ได้นั้น ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่า หากไม่ช่วยเหลือแล้ว นิติกรคนนี้อาจจะสร้างผลกระทบร้ายแรงให้กับกลุ่มข้าราชการระดับสูงได้ จึงต้องฃช่วยไว้ก่อน แต่ส่วนตัวผม มีความเชื่อเรื่องบุญกรรมอย่างมาก ผมเชื่อว่า กลุ่มบุคคลและกระบวนการทุจริตโกงสิทธิ์คนพิการในประเทศไทยนั้น ใหญ่โตมโหฬารแน่นอน ดังนั้น นิติกรคนนี้คงจะได้รับกรรมในเร็วๆ นี้ แน่นอน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งครับ

สำหรับข้อ 4 อาจจะเป็นเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ที่ผมได้อ่านคำพิพากษาของตัวเองหลายคดี แล้วเห็นว่าประโยคนี้จะพบแทบทุกครั้งคือ "คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ที่ 1" ส่วนตัวผมชอบประโยคในลักษณะนี้ เพราะแสดงถึงข้อสงสัย ให้ได้ต้องมีการพิสูจน์โดยหลักฐาน และโดยการพิเคราะห์ อันเป็นการแสดงถึงความยุติธรรมที่มีต่อทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นโจทก์หรือจำเลย ก็ตาม ผมยังคงมีข้อคิดดีเสมอมาว่า การที่คนเราจะสามารถเล่าเรียน สอบ และดำเนินวิชาชีพจนได้เป็น ผู้ช่วยผู้พิพากษา ผู้พิพากษาศาล ผู้พิพากษาอุทธรณ์ และผู้พิพากษาฎีกา ได้นั้น ต้องใช้ความวิริยะอุตสาหะเป็นสำคัญ อีกทั้งต้องมีความเป็นกลาง ต้องวิเคราะห์ พิเคราะห์ อย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อพิพากษาอย่างเป็นธรรม ในใจยังแอบคิดถึงเลยว่า หากผมสามารถย้อนอดีตได้ ผมอยากเรียนนิติศาสตร์ และตั้งเป้าหมายเพื่อสอบให้ได้เป็นผู้พิพากษา ครับ ผมคงจะช่วยผู้ทุกข์ร้อนเดือดร้อนได้มากมายกว่าที่เป็นอยู่นี้ แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็จะพยายามเต็มที่เพื่อครอบครัวคนพิการทั่วประเทศ เท่าที่ทำได้สุดความสามารถและกำลังที่ตัวเองมีอยู่ครับ

คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 เมื่อ 4 พ.ย.63 อ่านเมื่อ 12 พ.ย.63 หน้าที่ 6/12

คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 เมื่อ 4 พ.ย.63 อ่านเมื่อ 12 พ.ย.63 หน้าที่ 7/12

สำหรับข้อ 5 นี้ ถือเป็นขั้นตอนสำคัญอย่างมากนะครับ การที่เรารวมตัวกันเป็น "เครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ" เพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายนั้น สามารถกระทำได้ตามรัฐธรรมนูญ หากแต่การดำเนินการนั้นควรกระทำอย่างมีระบบ มีหลักฐาน เช่น การรับเรื่อง การร้องเรียน การประชุม เป็นต้น สำหรับข้อ 5 นี้ ผมได้มีการประชุม และผมได้ทำวาระการประชุมไว้ ในวันประชุมก็มีการลงลายมือชื่อเข้าร่วมประชุม ซึ่งเราสามารถนำมาเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ ส่วนตัวผมให้ความสำคัญกับการมีอยู่ และการมีหลักฐานในการทำงานทุกขั้นตอน ในท้ายที่สุด เอกสารเหล่านี้สามารถนำมาใช้งานได้เป็นอย่างดีครับ ผมจึงอยากแบ่งปันเรื่องราวนี้ให้เป็นแนวทางของผู้อ่านทุกท่านไว้ด้วยครับ

สำหรับข้อ 6 ในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ฉบับนี้ ผมคงไม่อธิบายเพิ่มเติมอะไรมาก หากทุกท่านตามอ่านถึงข้อมูล และการพิเคราะห์ จะเข้าใจได้เป็นอย่างดี เพราะหากผมมีอธิบายเพิ่มเติม อาจจะเป็นการซ้ำเติมโจทก์ ซึ่งเป็นถึง "นิติกรชำนาญการ" ให้หนักหนาเข้าไปอีก เพียงการพิเคราะห์ของคณะท่านผู้พิพากษา ก็ชัดแจ้งด้วยประการทั้งปวงแล้วครับ

คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 เมื่อ 4 พ.ย.63 อ่านเมื่อ 12 พ.ย.63 หน้าที่ 8/12

คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 เมื่อ 4 พ.ย.63 อ่านเมื่อ 12 พ.ย.63 หน้าที่ 9/12

สำหรับข้อ 7 นั้น ผมเพียงแต่นำมวาเป็นตัวอย่างให้ทุกท่านได้มีมุมมองเพิ่มเติม ในประเด็นของการเตรียมตัวให้พร้อม เวลาขึ้นศาล สำหรับข้อ 7 นี้ ผมอยากกล่าวถึง วิธีคิดและวิธีการ วิธีคิดคือ เราสามารถที่จะซักพยานฝ่ายโจทก์ ให้ได้ให้ถ้อยคำอันเป็นประโยชน์กับคดี สนับสนุนเหตุผลฝ่ายเราได้อย่างแน่นอน ขอให้คิดแบบนี้เป็นหลักว่าทำได้แน่นอน ส่วนวิธีการคือ การศึกษาข้อมูลให้ดี และตั้งคำถามเวลาถามค้านพยานฝ่ายโจทก์ให้ดี ในขั้นตอนพิจารณาคดี ครับ ผลการทำงานอย่างเต็มที่ปรากฎชัดเจนในคำพิพากษา ครับ

สำหรับข้อ 8-11 ผมฝากติดตามอ่านในตอนที่ 2/2 ต่อไปนะครับ

คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 เมื่อ 4 พ.ย.63 อ่านเมื่อ 12 พ.ย.63 หน้าที่ 10/12


คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 เมื่อ 4 พ.ย.63 อ่านเมื่อ 12 พ.ย.63 หน้าที่ 11/12

คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 เมื่อ 4 พ.ย.63 อ่านเมื่อ 12 พ.ย.63 หน้าที่ 12/12


คดีความต่างๆ ของพวกเรา "เครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ" ณ วินาทีที่ผมกำลังพิมพ์บทความ นับว่า ใกล้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียง 1 คดีอาญาเท่านั้น ที่ผมเฝ้ารอให้ "คดีถึงที่สุด และนำไปแถลงต่อท่านผู้พิพากษาคดีแพ่ง ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อทุกเรื่องจบสิ้น พวกเราจะเปลี่ยนสถานะทันที เพื่อต่อสู้กับกลุ่มทุจริตคอรัปชั่น และทุจริตประพฤติมิชอบ ต่อไปครับ

หลังจากเคลียร์งานยุ่งๆ ช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.63 เสร็จ ผมเฝ้ารอที่จะเปลี่ยนสถานะจากการตกเป็น "จำเลย" ด้วยความอดทน ว่าเมื่อเปลี่ยนเป็น "โจทก์" จะเป็นอย่างไร ขออนุญาตฝากบอกผ่านบทความนี้ไปถึงฝ่ายโจทก์ทุกคน และผู้หนุนหลังให้เงินให้ทองทุกคน รวมถึงข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ว่าพกคุณทำให้ผมจาก "เสือลำบาก" ได้กลายเป็น "เสือติดปีก" เรียบร้อยแล้ว เกษียณแล้วก็ไม่ต้องกังวลใจนะครับ ยังไงๆ เสือตัวนี้จะช่วยลากลงมากองให้หมด จนครบทุกคนครับ โดยเริ่มจาก
  • คดีที่ 9 จังหวัดกาฬสินธุ์ (ถึงขั้นตอนการสืบพยานแล้ว)
  • คดีที่ 10 คดีฟ้องเท็จ และกลั่นแกล้งใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ+ระรานยื่นหนังสือที่ไร้หลักฐานไปทั่ว อย่างไม่มีจิตสำนึก ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองผิด และยังทำให้เสียเวลาทำมาหากินโดยฟ้องทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง
  • คดีที่ 11 คดีที่ใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ เพื่อกลั่นแกล้งผม ให้ได้รับโทษ ถูกเกลียดชัง และทำให้เสียเวลาทำมาหากิน โดยจะฟ้องทั้งคดีอาญา คดีแพ่ง
  • คดีที่ 12 ฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ นายกสมาคม ประธานนิธิ คนพิการต่างๆ และข้าราชการที่ร่วมทุจริต ชุดที่หนึ่ง จากทั้งหมด 5 ชุด
ปีหน้า 2564 จะเป็นอีกปีที่ได้เริ่มทำบุญใหญ่ เพื่อ "เลิกทาสคนพิการ" ร่วมกับหน่วยงานสำคัญๆ ของประเทศไทยต่อไปครับ

ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณท่านผู้พิพากษา และกระบวนการยุติธรรม

พิมพ์เผยแพร่เมื่อ 31 ธ.ค. 63





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น