หน้าเว็บ

17 ก.ย.62 @ "คำพิพากษา" คดีที่ 4 อาญา_หมิ่นประมาท ตอนที่ 4/5 @ หลักฐานการโกงสิทธิ์คนพิการ ประกอบการไต่สวน ที่ศาลจังหวัดสมุทรสาคร

สวัสดีครับทุกท่าน สืบเนื่องจากบทความตอนที่ 1/5 "คำพิพากษา" คดีที่ 4_อาญา หมิ่นประมาท ที่ท่านผู้พิพากษาได้ตัดสิน "ยกฟ้อง ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง" ผมได้อ้างอิงกับทุกท่านแล้วว่ามีข้อมูลหลักฐานจำนวนมาก ซึ่งผมอยากบอกว่านำมาเขียนทั้งหมดไม่ไหวแน่นอน เพราะว่าเยอะมากๆ ความทุกข์ร้อนเดือดร้อนของคนพิการและผู้ดูแลคนพิการ ไม่สามารถนำมาเขียนได้หมด ผมจึงขอนำมาแบ่งปันพอสังเขป สำหรับบทความนี้ก็จะยาวพอสมควร ผมจึงขอใช้ภาพสแกนข้อมูลมาแสดงและขอพิมพ์แทรกในแต่ละจุดที่น่าสนใจ ตรงไหนข้ามได้จะข้าม อยากให้ผู้อ่านลงรายละเอียดเอง แต่ผมจะพิมพ์แบบย่อรวบรัดคลุมภาพรวมไว้ให้ ตรงไหนสำคัญจะเจาะเป็นจุดๆ ให้นะครับ

ข้อมูลหลักฐานฉบับนี้เราคัดสบำเนาเมื่อวันที่ 17 ก.ย.62 หลังคำพิพากษา (10 ก.ย.62) ประมาณ 1 สัปดาห์ ข้อมูลหลักฐานนี้ก็คือ "ใบแสดงรายละเอียดและมูลค่าโครงการอาชีพอิสระร้านเบเกอร์รี่และเครื่องดื่มเคลื่อนที่" ซึ่งโดยสุจริตใจนั้น คนพิการและผู้ดูแลคนพิการทุกคนที่เข้าร่วมโครงการนี้ ต้องได้รับเอกสาร เพราะเวลาข้าราชการมาตรวจสอบสิทธิ์ จะได้สามารถอธิบายรายละเอียดได้ แต่คำให้การในการร้องเรียนว่าถูกละเมิดสิทธิ์นั้น คนพิการและผู้ดูแลคนพิการไม่มีใครได้รับเอกสารชุดนี้เลย แต่เอกสารชุดนี้เราได้มาก่อนขึ้นศาลจากผู้หวังดี และผมได้นำมาประกอบการร้องเรียนส่งไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย และหน่วยงานตรวจสอบแทบทุกแห่งครับ


ผมขอปิดข้อมูลสำคัญ ชื่อบุคคล ชื่อองค์กร ที่เกี่ยวข้อง บทความชุด "5 ภาคโกงสิทธิ์คนพิการ" มีวัตถุประสงค์เป็นข้อมููล ตัวอย่างที่คนพิการและครอบครัวทั่วประเทศมาพบเห็น ได้อ่าน ได้ศึกษา ทำให้มีความเข้าใจ มีความรู้ และนำไปพึงสังเกตุว่าตนเองถูกโกงสิทธิ์ต่างๆ ไปหรือไม่ สำหรับรายชื่อ "นางสาวจินตนา ดีที" (ลำดับที่ 14) ผมไม่ได้ปิดบังชื่อ เพราะพี่จินตนา เป็นผู้ดูแล ที่ถูกผู้นำคนพิการโกงสิทธิ์มาตรา 35 มูลค่า 109,500 บาท (หนึ่งแสนเก้าพันห้าร้อยบาทถ้วน) ไปอย่างเลวร้ายที่สุดตั้งแต่ผมรับเรื่องร้องเรียนมา ไม่เคยเจอใครโกงได้มากมายขนาดนี้ เพราะพี่จินตนา ได้รับเงินเพียง 3,000 บาทเท่านั้น ถูกโกงไป 106,500 บาท ครับ โกงอย่างไร ทุกท่านตามอ่านได้เลยครับ ยาวหน่อยนะครับ แต่ได้รับความรู้แน่นอนครับ




สำหรับหน้านี้ ผมอยากให้ดูสาระในกรอบแดงครับ ว่ามีการใช้สิทธิ์คนพิการจำนวน 30 คน (ปี 2560) นะครับ ไม่ใช่ 31 คน เพราะ 31 คนคือปี 2559 (**เฉพาะความเข้าใจตรงนี้ ผมขอทำลิงก์ไปขยายความ เกรงว่าผู้อ่านที่ไม่รู้กฎหมายฉบับนี้จะได้มีความเข้าใจก่อนครับ**) ตามดุลพินิจของผมนะครับ ไม่ว่าจะปี 2559 หรือ 2560 ผู้นำคนพิการคนนี้โกงมันทั้ง 2 ปีครับ แต่ตามมูลค่าส่วนต่างนั้น ปี 2560 โกงมากที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ครับ เพราะในพื้นที่จังหวัดอื่นแย่ที่สุด คนพิการได้รับเดือนละ 2 พันบาท ใน 1 ปียังได้รับ 24,000 บาท แต่ที่จังหวัดสมุทรสาคร ตัวอย่างพี่จินตนา ได้รับเพียง 3 พันบาทเท่านั้น ผมถึงมั่นใจว่าเป็นการโกงมากที่สุดในประเทศไทยครับ แต่ก็ไม่แน่นะครับ อาจมีบางสมาคมที่ใส่ชื่อคนพิการโดยคนพิการไม่รู้เรื่องเท่ากับ โกงเต็ณมจำนวน ถ้าเป็นอย่างนั้นที่ จ.สมุทรสาคร ก็แพ้สถิติไปครับ

สำหรับหน้านี้ ยาวมากหน่อยนะครับ เพราะมีถึง 6 ข้อหลัก ที่เป็นจุดสังเกตการโกง นะครับ ดังนี้
  1. จุดที่ 1 เป็นการใช้สิทธิ์คนพิการ 30 คน และที่ผมปิดแถบน้ำเงิน คือชื่อสถานประกอบการ นะครับ เพราะส่วนตัวผมก็รู้จักกับผู้บริหารของถสานประกอบการ และท่านก็ทราบเรื่องนี้ดี เพราะเคยมีการประชุมร่วมกัน
  2. จุดที่ 2 สำหรับผมคือ การโฆษณาชวนเชื่อ ผมไม่แน่ใจว่าเป็นการหลอกลวงคนพิการ สถานประกอบการ และหน่วยงานราการหรือไม่ เพราะว่า ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะว่าโํดยพฤติกรรม อาจเป็นการวางแผนทำให้ํโครงการนี้ล้มเหลวมาตั้งแต่ต้นแล้วครับ
  3. จุดที่ 3 กับจุดที่ 4 มีการโกงคล้ายๆ กัน สำหรับจุดที่ 3 นี้ เป็นซุ้มขายกาแฟและเครื่องดื่มอยู่กับที่ ในตอนที่ 5/5 ผมจะนำภาพจริงมาให้ทุกท่านได้อ่านและเห็นว่า ผู้นำคนพิการคนนี้ตั้งใจทำให้โครงการนี้ล้มเหลวมาตั้งแต่แรก ใช่หรือไม่ อยากให้ทุกท่านช่วยกันพิจารณาครับ
  4. จุดที่ 4 เป็นซุ้มขายกาแฟและเครื่องดื่มเคลื่อนที่ หรืออยู่บนท้ายรถกระบะ นั่นเอง ประเด็นนี้น่าสนใจด้วยนะครับ เพราะว่ามูลค่ารถกระบะกับทรัพย์สินในซุ้มมีมูลค่าถึงประมาณ 2.9 แสนบาท แต่ใช้สิทธิ์คนพิการ 2 คน เท่ากับ 1 คนได้สิทธิ์มูลค่า 145,000 บาท ซึ่งเกิน 109,500 บาท แปลว่า ต้องมีการเบียดเบียนมูลค่าถึง 10 คน จากทั้งหมด 30 คน แล้วคนพิการกลุ่มไหนถูกเบียบเบียนสิทธิ์ ตามอ่านจนจบนะครับ **เฉพาะประเด็นนี้ ผมในฐานนะที่เป็นที่ปรึกษาเรื่องโครงการมาตรา 35 ให้กับสถานประกอบการหลายแห่ง ประเด็นสิทธิ์เกินและขาดตามตัวอย่างโครงการนี้ ทางสำนักงานจัดหางานเขตพื้นที่ ไม่ควรอนุมัติโครงการเพราะผิดระเบียบฯ มาตรา 35 ปี 2558 แบบ 100% ครับ
  5. จุดที่ 5 ที่ตัวหนังสือเขียนว่า จะมีการทำเบเกอรรืรี่ส่งให้ฝ่ายขาย 10 ซุ้ม นั้นโกหกพกลมโดยแท้ เพราะแม้แต่เครื่องมือผลิตเบเกอร์รี่ทั้ง 10 ชุด สำหรับ 10 คน ไม่มีเลย ประเด็นสำคัญคือ ผ่านการตรวจสอบมาจากหน่วยงานราชการ ได้อย่างไร ทั้งขั้นตอนการตรวจรับมอบงาน และการตรวจว่ามีการดำเนินการ หรือมีการรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ ชวนให้ผู้ร้องเรียนและตัวผมมีคำถามให้สงสัยเป็นอย่างมาก
  6. จุดที่ 6 เป็นจุดตายของผู้นำคนพิการคนนี้เลย เพราะว่า เขาไม่ได้ดำเนินการโครงการจริง จึงไม่มีหลักฐานทางบัญชีให้สถานประกอบการตรวจสอบแม้แต่ฉบับเดียว ผมจำได้เลยว่า ตอนขึ้นศาลชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ผู้นำคนพิการคนนี้ ตอบทนายฝ่ายผม (จำเลย) ว่าเขาไม่มีความรู้เรื่องบัญชี จึงไม่ได้จัดทำรายงานบัญชี และยังปรากฎในหลักฐานวาระการประชุมของหน่วยงานราชการและสถานประกอบการร่วมมือกันจัดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ ในวาระการประชุมระบุชัดเจนโดยผู้บริหารว่า ได้มีคำสั่งให้ผู้นำคนพิการ สมาคมนี้ จัดทำรายงาน แต่ไม่ยอมทำส่ง แม้ว่าจะจบโครงการไปแล้วถึง 1 ปีเต็ม อีกทั้งยังมีระบุชัดเจนว่า ผู้บริหารเคยสุ่มตรวจพบว่า ไม่มีการดำเนินการโครงการ โดยผมจะนำหลักฐานสำคัญนี้มาให้ทุกท่านอ่านในตอนที่ 5/5 ครับ









สำหรับเอกสารหลักฐานหน้านี้ 
  • จุดที่ 7 ข้อ 1+2+3+8 ไม่สามารถทำได้ ตามการวิเคราะห์ของผม เพราะถือว่าผิดกฎหมาย (ผิดระเบียบ มาตรา 35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใด ปี 2558) หรือกล่าวโดยรวมว่า ในข้อ 7 นี้ ไม่ควรมีอยู่ในโครงการ เนื่องจากเป็นค่าดำเนินการ ไม่ใช่ทรัพย์สินที่สถานประกอบการต้องเป็นผู้มอบให้กับผู้ใช้สิทธิ์ ทั้งนี้น่าสนใจตรงที่ สำนักงานจัดหางานเขตพื้นที่ ให้ผ่านการอนุมัติเห็นชอบโครงการมาได้อย่างไร
  • เพิ่มเติมจุดที่ 6 (จากข้อมูลวิเคราะห์ด้านบน) ก็ตามที่ผมแจ้งว่า ไม่มีการทำจริง จึงไม่มีรายงานทางบัญชี แต่อย่างใดครับ



  • สำหรับจุดที่ 8 นี้จะตรงกับด้านบนที่ผมวิเคราะห์ไว้ คือ อาจเข้าข่ายหรืออาจจะไปในทิศทางที่เป็นการหลอกลวง ฉ้อโกง เนื่องจากไม่สามารถจะเกิดขึ้นจริง เพราะดูพฤติกรรมแล้ว ผู้นำคนพิการคนนี้ ตั้งใจให้โครงการล้มเหลวอย่างเจตนา หลักฐานชัดๆ ตามอ่านในตอนที่ 5/5 ได้ครับ



สำหรับหน้าสุดท้ายของข้อมูลหลักฐานนี้ บ่งบอกถึงเจตนาการโกงสิทธิ์คนพิการอย่างชัดเจนนะครับ เรียกว่า "โกงทุกเม็ด ทุกข้อ ไม่มีเว้น" เป็นพฤติกรรมที่ต้องบอกว่า โคตรโกงเลยนะครับ ผมเห็นว่า บทความนี้ยาวพอสมควร ผมขอนำตารางสุดท้ายนี้ยกยอดไปขยายความ การโกงสิทธิ์คนพิการที่อาจเรียกได้ว่า โกงมากที่สุดในประเทศไทย ไปไว้ในตอนที่ 5/5 รวดเดียวเลยนะครับ เรียกว่า ตอนที่ 5/5 มีปีศาจที่สิงอยู่ในร่างคนอยู่จริงบนโลกใบนี้ครับ ระหว่างรอตอน 5/5 ผู้อ่านดูตัวเลขและยอดรวม 3 ล้านกว่าบาทไปพลางๆ ก่อนนะครับ


พิมพ์เผยแพร่เมื่อ 16 เม.ย.63

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น