สวัสดีครับทุกท่าน สำหรับคดีที่ 4 คดีอาญาฟ้องหมิ่นประมาทผมนั้น ได้มี "คำพิพากษา ยกฟ้อง" ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง มีเรื่องน่าสนใจตรงที่ คดีหมิ่นประมาทที่ผมถูกฟ้องทั้งหมด 3 คดีนะครับทุกท่าน สิ่งที่เหมือนกันทั้งหมด ที่ผมถูกฟ้องทั้ง 3 คดี คือใช้หลักฐานข้อมูลที่นำมาฟ้องเป็นชุดเดียวกันทั้งหมด โดยผมถูกฟ้องใน 3 จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และสมุทรสาคร โจทก์ทุกคดีนำคลิปข่าวของ TNN16 ที่ผมได้ให้สัมภาษณ์นักข่าวในวันที่ 27 กันยายน 2561 ก่อนผมได้ไปให้ข้อมูลกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงแรงงาน
บทความตอนนี้ผมจึงขอนำหลักฐานสำคัญ ที่ผมใช้ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง เป็นหนังสือตอบจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ซึ่งได้ลงพื้นที่สอบสวนข้อเท็จจริงในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จนออกหนังสือมาแล้วว่า โครงการส่งเสริมอาชีพคนพิการ 2 โครงการของปี 2559 และปี 2560 ขององค์กรด้านทำประโยชน์คนพิการแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร ว่า "ไม่เป็นไปตามระเบียบ" หรือแปลว่า ผิดกฎหมาย มาตรา 35 นั่นเอง หนังสือสำคัญฉบับนี้ ส่วนตัวผมมีความคิดเห็นว่า อาจเป็นหลักฐานสำคัญฉบับหนึ่ง ทีี่ทำให้ท่านผู้พิพากษา ตัดสินใจยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง
แต่สำคัญกว่านั้น ในเมื่อหน่วยงานตรวจสอบ ระดับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ลงพื้นที่ตรวจสอบให้แล้วจนพบว่ามีการกระทำความผิด อีกทั้งยังส่งหนังสือฉบับนี้ไปยังกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) สังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กลับไม่อออกมาแถลงข่าวถึงการดำเนินการใดๆ ว่าได้ทำไปแล้วระดับไหน มีใครผิดบ้าง จัดการอย่างไร จนเป็นคำถามมากมาย ของคนพิการและผู้ดูแลคนพิการ ในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งคนพิการบางรายเสียชีวิตไปแล้ว ทั้งๆ รู้ตัวแล้วว่า ผู้นำคนพิการคนนี้เป็นใคร เราตามอ่านรายละเอียดถึงจุดสังเกตและสงสัยของหลักฐานฉบับนี้ด้วยกันครับ มีทั้งหมด 4 จุด นะครับ
ด้านบนเป็นหนังสือฉบับเต็มนะครับ สำหรับลิงก์ข่าวที่สามารถดูได้คือ ลิงก์ข่าวนี้ครับ
เรามาดูกันว่า ในหนังสือตอบของดีเอสไอ ที่ได้ตอบมายังผมเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562 หลังจากที่เครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ ได้ยื่นเรื่องขอให้ดัเอสไอ ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง จนมีการลงพื้นที่ช่วงเดือน พฤศจิกายน 2561 ผมจะไล่ไปทีละข้อ นะครับ
ในตอนต่อๆ ไป ผมจะนำหลักฐานมาเีปิดโปงให้ทุกท่านได้อ่านกัน เพื่อพิสูจน์คำพูดที่ผมพูดว่า "การโกงสิทธิ์คนพิการ ตามมาตรา 35 แห่ง พรบ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เป็นการโกงสิทธิ์คนพิการที่เลวร้ายที่สุดในประเทศไทย"
ไม่ต้องคิดมากเลยครับว่า "ทุจริตคอรัปชั่น" ของผู้นำคนพิการ กับการ "ทุจริตประพฤติมิชอบ" ของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เป็นคู่กันเหมือนปาท่องโก๋ จริงๆ หากว่าไม่มีการดำเนินการใดๆ ครับ
ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณเจ้าหน้าที่สอบข้อเท็จจริง ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) มากครับ
พิมพ์เผยแพร่เมื่อ 15 เม.ย.63
บทความตอนนี้ผมจึงขอนำหลักฐานสำคัญ ที่ผมใช้ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง เป็นหนังสือตอบจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ซึ่งได้ลงพื้นที่สอบสวนข้อเท็จจริงในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จนออกหนังสือมาแล้วว่า โครงการส่งเสริมอาชีพคนพิการ 2 โครงการของปี 2559 และปี 2560 ขององค์กรด้านทำประโยชน์คนพิการแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร ว่า "ไม่เป็นไปตามระเบียบ" หรือแปลว่า ผิดกฎหมาย มาตรา 35 นั่นเอง หนังสือสำคัญฉบับนี้ ส่วนตัวผมมีความคิดเห็นว่า อาจเป็นหลักฐานสำคัญฉบับหนึ่ง ทีี่ทำให้ท่านผู้พิพากษา ตัดสินใจยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง
แต่สำคัญกว่านั้น ในเมื่อหน่วยงานตรวจสอบ ระดับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ลงพื้นที่ตรวจสอบให้แล้วจนพบว่ามีการกระทำความผิด อีกทั้งยังส่งหนังสือฉบับนี้ไปยังกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) สังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กลับไม่อออกมาแถลงข่าวถึงการดำเนินการใดๆ ว่าได้ทำไปแล้วระดับไหน มีใครผิดบ้าง จัดการอย่างไร จนเป็นคำถามมากมาย ของคนพิการและผู้ดูแลคนพิการ ในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งคนพิการบางรายเสียชีวิตไปแล้ว ทั้งๆ รู้ตัวแล้วว่า ผู้นำคนพิการคนนี้เป็นใคร เราตามอ่านรายละเอียดถึงจุดสังเกตและสงสัยของหลักฐานฉบับนี้ด้วยกันครับ มีทั้งหมด 4 จุด นะครับ
ด้านบนเป็นหนังสือฉบับเต็มนะครับ สำหรับลิงก์ข่าวที่สามารถดูได้คือ ลิงก์ข่าวนี้ครับ
- 26 พ.ย.61 MC Di0gital ข่าวดีเอสไอ ลงพื้นที่ตรวจสอบโกงเงินคนพิการจังหวัดสมุทรสาคร https://bit.ly/2XB3kqM
- 24 พ.ย.61 คมชัดลึก ดีเอสไอ ลงสอบโกงคนพิการ จังหวัดสมุทรสาคร https://www.komchadluek.net/news/hotclip/353437
- 24 พ.ย.61 เนชั่น 22 ดีเอสไอ ลงสอบโกงคนพิการจังหวัดสมุทรสาคร https://www.nationtv.tv/main/program/378671862/
 |
| 26 พ.ย.61 MC Di0gital ข่าวดีเอสไอ ลงพื้นที่ตรวจสอบโกงเงินคนพิการ จ.สมุทรสาคร |
 |
| 26 พ.ย.61 MC Di0gital ข่าวดีเอสไอ ลงพื้นที่ตรวจสอบโกงเงินคนพิการ จ.สมุทรสาคร |
เรามาดูกันว่า ในหนังสือตอบของดีเอสไอ ที่ได้ตอบมายังผมเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562 หลังจากที่เครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ ได้ยื่นเรื่องขอให้ดัเอสไอ ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง จนมีการลงพื้นที่ช่วงเดือน พฤศจิกายน 2561 ผมจะไล่ไปทีละข้อ นะครับ
- จาก 2 ปี (2559-2560) ในจุดที่ 1 โครงการ ในปี 2559 โครงการฝึกงานหลักสูตรการทำเบเกอร์รี่และจัดเลี้ยง และหลักสูตรทำเบญจรงค์ ผลการตรวจสอบคือ "ระยะเวลาไม่ครบตามระเบียบ" ทำให้คนพิการและผู้ดูแลคนพิการ ได้รับประโยชน์ไม่ครบถ้วน สำหรับข้อนี้ ในตอนหน้า 3/5 เราจะนำข้อมูลมาตีแผ่ ให้ทุกท่านได้ทราบกัน
- ในปี 2560 จุดที่ 2โครงการปี 2560 หนังสือตอบกล่าวถึง โครงการส่งเสริมอาชีพการทำเบเกอร์รี่และเครื่องดื่มแบบเคลื่อนที่ คนพิการและผู้ดูแลคนพิการ ไม่ได้รับสิทธิ์ตามที่ควรได้รับ สำหรับข้อมูลในข้อนี้ ผมจะนำมาตีแผ่ ในตอนที่ 4/-5
- ในจุดที่ 3 ผมอยากนำเสนอให้ผู้อ่านทุกท่าน ได้ทราบล่วงหน้าไว้ก่อน เพราะมีเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ฟ้องคดีอาญา-หมิ่นประมาท ผมในจังหวัดปทุมธานี (คดีที่ 3) กลับนำเอาเนื้อหาในจุดที่ 3 นี้ไปให้การในชั้นศาล ว่าตัวเองไม่ผิด ซึ่งผมก็ได้ถามหัวหน้าทีมสอบสวนข้อเท็จจริงของดีเอสไอ ให้ความรู้ชัดเจนว่า ไม่ใช่กรอบหน้าที่การตรวจสอบของดีเอสไอ ที่จะไปตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐ
- สำคัญอีกจุดคือ จุดที่ 4 ทางดีเอสไอ ตอบในหนังสือว่า ได้ส่งหนังสือผลการสอบสวนข้อเท็ณจจริงไปยัง กรม พก. สังกัดกระทรวง พม. แล้ว คำถามคือ แล้ว กรม พก. ที่ดูแลสิทธิของคนพิการ ทำอะไรไปแล้วบ้าง ผมเป็นประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ สิ่งที่ผมได้รับคือ หนังสือตอบที่อ้างว่า อยู่ในระหว่างการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของกรม พก. อยู่ ยังไม่เสร็จเรียบร้อย ทั้งที่มีคนพิการและผู้ดูแลคนพิการ ถูกโกงอยู่จริง
ในตอนต่อๆ ไป ผมจะนำหลักฐานมาเีปิดโปงให้ทุกท่านได้อ่านกัน เพื่อพิสูจน์คำพูดที่ผมพูดว่า "การโกงสิทธิ์คนพิการ ตามมาตรา 35 แห่ง พรบ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เป็นการโกงสิทธิ์คนพิการที่เลวร้ายที่สุดในประเทศไทย"
ไม่ต้องคิดมากเลยครับว่า "ทุจริตคอรัปชั่น" ของผู้นำคนพิการ กับการ "ทุจริตประพฤติมิชอบ" ของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เป็นคู่กันเหมือนปาท่องโก๋ จริงๆ หากว่าไม่มีการดำเนินการใดๆ ครับ
ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณเจ้าหน้าที่สอบข้อเท็จจริง ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) มากครับ
พิมพ์เผยแพร่เมื่อ 15 เม.ย.63
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น