หน้าเว็บ

28 พ.ย.62 @ "คำพิพากษา" คดีที่ 3 อาญา_หมิ่นประมาท ตอนที่ 3/3 @ ศาลชั้นต้น ท่านผู้พิพากษา "ยกฟ้อง" แล้ว ตามฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ต่อเลยครับ

สวัสดีครับทุกท่าน บทความนี้เป็นตอนที่ 3/3 ซึ่ง 2 ตอนแรก 1/3 กับตอน 2/3 ผมได้อธิบาย และสื่อสารขยายความให้ทุกท่านได้ทราบเพิ่มเติม ประกอบคำพิพากษา ผมได้จัดแบ่งเป็นข้อๆ ไว้ 14 ข้อ ได้ขยายความไปแล้ว 13 ข้อ สำหรับข้อ 14 กับเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นความรู้ จากประสบการณ์จริง และฝากทุกท่านติดตามอ่านคำพิพากษาของ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ต่อในชุดบทความต่อไปได้เลยนะครับ ทีี่ลิงก์นี้ครับ https://npr-pwd.blogspot.com/2019/09/33.html และส่วนตัวผมก็รอใจจดใจจ่อว่า ทางฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็น "นิติกรชำนาญการ" คนนี้จะยื่นฎีกา ต่อหรือไม่ ผมจะนำมาแบ่งปันต่อไปครับ

สำหรับข้อ 13 คือ คำพิพากษา ของท่านผู้พิพากษา 2 ท่าน ที่ได้พิเคราะห์แล้วว่า ผมมีเจตนาทำเพื่อส่วนร่วม ท่านจึงได้เมตตามีตำพิพากษา "นกฟ้อง" ให้กับผม ผมขอนำคำอธิบายเพิ่มเติมในตอนที่ 2/3 ให้ได้อ่านอีกครั้ง ดังนี้ครับ

สำหรับการขยายความในหน้าที่ 10-11/12 นี้คือ ข้อ 13
  • สำหรับข้อ 13 ในบทความตอนที่ 2/3 นี้ ผมต้องกราบขอบพระคุณท่านผู้พิพากษาศาลชั้นต้นอย่างสูงครับ เพราะว่าท่านผู้พิพากษาได้พิเคราะห์ โดยนำมาตรา 329 ตัดสินเจตนาที่ผมนำแผนผังมาแสดงเป็นการกระทำโดยสุจริตเพื่อประโยชน์ส่วนรวม และมิได้กลั่นแกล้งโจทก์ทั้งสองแต่อย่างใด ส่วนในรายละเอียดของการสอบวินัยจนโจทก์ที่ 1 ไม่ผิดวินัยร้ายแรงนั้น แต่ก็ยังนับว่าผิดวินัย เช่นกัน ซึ่งในเร็วๆ นี้ ผมจะนำข้อมูลสแดงถึง การผิดวินัย และผิดวินัยร้ายแรง มาให้ผู้อ่านทุกท่านได้ลองพิจารณาดูนะครับ จะได้ทราบความจริงว่า "กระบวนการและขบวนการ ช่วยเหลือ คอยปัดกวาด" นั้นมีอยู่จริง


คำพิพากษา "ยกฟ้อง" ของท่านผู้พิพากษา ศาล (ชั้นต้น) จังหวัดปทุมธานี หน้า 10/12


คำพิพากษา "ยกฟ้อง" ของท่านผู้พิพากษา ศาล (ชั้นต้น) จังหวัดปทุมธานี หน้า 11/12

บทความตอนนี้ ผมอยากเล่าถึง สถานการณ์เวลาเราไปขึ้นศาล นั้น ไม่ว่าเราจะเป็นโจทก์ จำเลย พยาน ก็ตาม เมื่อมีการขึ้นศาลแล้ว ในตอนท้ายก่อนออกจากห้อง ท่านผู้พิพากษาจะอ่าน "รายงานกระบวนพิจารณา" ให้ทุกคนได้ทราบพร้อมกัน ดังเช่นตัวอย่างที่ผมนำมาแบ่งปัน ว่าท่านได้รายงานว่า ท่านผู้พิพากษาได้อ่านคำพิพากษาเรียบร้อย ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 ตามหนังสือด้านล่างนี้ ผมขอเสริมเพิ่มเติมนะครับว่า ทั้งโจทก์ และจำเลย ต้องเซ็นต์รับทราบ อันที่่จริงน่าจะเป็นทุกคนที่มาฟังคำพิพากษามากกว่า เพียงแต่ว่าในวันดังกล่าว ทนายฝ่ายโจทก์ และจำเลย ไม่ได้มาด้วย จึงไม่มีรายชื่อให้เซ็นต์ในส่วนท้ายของหนังสือรายงานกระบวนพิจารณา ครับ

คำพิพากษา "ยกฟ้อง" ของท่านผู้พิพากษา ศาล (ชั้นต้น) จังหวัดปทุมธานี หน้า 12/12

มาถึงเรื่องสำคัญอีกเรื่องนะครับ ส่วนตัว อยากแบ่งปันประสบการณ์สำคัญไว้ให้ทุกท่านได้ทราบถึงความยากลำบากในคดีนี้ของผม และการกล่าวถึง ขอบพระคุณผู้มีพระคุณในการให้ความ่วยเหลือ ดังนี้ ผมจำได้ดีว่า คดีนี้เป็นอีกคดีหนึ่งที่ผมต้องมีการประกันตัว หลังที่ท่านผู้พิพากษาได้รับคดีไว้พิจารณา ผมได้รับความอนุเคราะห์ช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง ได้มอบหมายให้ผู้ใหญ่อีกท่าน มาช่วยประกันตัวผมด้วยหลักทรัพย์ ที่เป็น "โฉนดที่ดิน" ที่มีมูลค่ามากกว่าวงเงินประกันที่ท่านผู้พิพากษาได้กำหนดไว้ เมื่อครั้งที่ผมต้องประกันตัว หลังมีคำสั่งรับคดีไว้พิจารณา

(ผู้อ่าน อาจสงสัยว่า ทำไมมีคำพิพากษา "ยกฟ้อง" แล้วเหตุใดจึงรับคดีไว้พิจารณา เรื่องนี้ คำถามนี้ ผมขอตอบตามที่ตัวเองวิเคราะห์เอง ว่า ในช่วงแรกที่ผมถูกฟ้องนั้น ยังไม่มี "ผลการสอบสวนข้อเท็จจริง" และ "ผลสอบวินัยร้ายแรง" จึงยังคงมีข้อเคลือบแคลงสงสัยว่า ผมออกมาเปิดโปงการทุจริตนั้น ผมกลั่นแกล้งโจทก์หรือไม่ การรับคดีไว้พิจารณานั้น จึงชอบแล้ว อันเป็นการยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย ซึ่งหากเทียบเคียงคดีที่ 3 นี้กับคดีที่ 4 (ศาลจังหวัดสมุทรสาคร) ที่ผมถูกฟ้องหมิ่นประมาท เช่นกัน ในขั้นตอนไต่สวนมูลฟ้อง ท่านผู้พิพากษา มีคำพิพากษา "ยกฟ้อง" ไม่รับคดีไว้พิจารณา อันเนื่องจากมีข้อมูลสำคัญ คือ ผลการสอบสวนของกรมสวนสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่ามีการกระทำความผิด ทุจริตคอรัปชั่น ในการโกงสิทธิ์คนพิการ ท่านผู้พิพากษาจึงยกฟ้อง ด้วยมาตรา 329 ผมทำไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวม กับคนพิการทุกคนที่มาร้องเรียนครับ)


สำหรับเอกสารสุดท้าย หรือข้อ 14 ที่ผมอยากแบ่งปันเป็นประสบการณ์ให้กับทุกท่านคือ "หนังสือแจ้งถอนอายัดที่ดิน" ที่ผู้ใหญ่ใจดีได้ช่วยนำมาประกันตัวผมในขั้นตอนการรับคดีไว้พิจารณาคดีครับ ดังนั้นในวันฟังคำพิพากษา ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 ผมจึงนัดหมายผู้ใหญ่ใจดี เดินทางมาถอนอายัดที่ดิน และถอนจากการเป็นนายประกันตัวผมด้วยครับ ปรากฎตามรายละเอียดในหนังสือด้านบนครับ

เชิญชวนให้ได้ตามอ่านชุดบทความต่อไป คำพิพากษาคดีที่ 3 นี้ เป็นคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ ซึ่งมีรายละเอียดเพิ่มเติมที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นการพิเคราะห์ของท่านผู้พิพากษา 3 ท่านครับ 

หลังจากเคลียร์งานยุ่งๆ ช่วงเดือน พ.ย.63 เสร็จ ผมเฝ้ารอที่จะเปลี่ยนสถานะจากการตกเป็น "จำเลย" ด้วยความอดทน ว่าเมื่อเปลี่ยนเป็น "โจทก์" จะเป็นอย่างไร ขออนุญาตฝากบอกผ่านบทความนี้ไปถึงฝ่ายโจทก์ทุกคน และผู้หนุนหลังให้เงินให้ทองทุกคน รวมถึงข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ว่าพกคุณทำให้ผมจาก "เสือลำบาก" ได้กลายเป็น "เสือติดปีก" เรียบร้อยแล้ว เกษียณแล้วก็ไม่ต้องกังวลใจนะครับ ยังไงๆ เสือตัวนี้จะช่วยลากลงมากองให้หมด จนครบทุกคนครับ โดยเริ่มจาก
  • คดีที่ 9 จังหวัดกาฬสินธุ์ (ถึงขั้นตอนการสืบพยานแล้ว)
  • คดีที่ 10 คดีฟ้องเท็จ และกลั่นแกล้งใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ+ระรานยื่นหนังสือที่ไร้หลักฐานไปทั่ว อย่างไม่มีจิตสำนึก ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองผิด และยังทำให้เสียเวลาทำมาหากินโดยฟ้องทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง
  • คดีที่ 11 คดีที่ใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ เพื่อกลั่นแกล้งผม ให้ได้รับโทษ ถูกเกลียดชัง และทำให้เสียเวลาทำมาหากิน โดยจะฟ้องทั้งคดีอาญา คดีแพ่ง
  • คดีที่ 12 ฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ นายกสมาคม ประธานนิธิ คนพิการต่างๆ และข้าราชการที่ร่วทุจริต ชุดที่หนึ่ง จากทั้งหมด 5 ชุด
ปีหน้า 2564 จะเป็นอีกปีที่ได้เริ่มทำบุญใหญ่ เพื่อ "เลิกทาสคนพิการ" ร่วมกับหน่วยงานสำคัญๆ ของประเทศไทยต่อไปครับ

ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณท่านผู้พิพากษา และกระบวนการยุติธรรม

พิมพ์เผยแพร่เมื่อ 30 ธ.ค. 63

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น