หน้าเว็บ

21 กรกฎาคม 2562 @ เวทีเพื่อความเป็นธรรมทางสังคม 2019 (Social Equity Impact Forum THAILAND 2019) ตอนที่ 5/7 ต้องคุยกับคุณแฮรี่ให้ได้

สวัสดีครับทุกท่าน สิ่งที่ละเลยไม่ได้ทุกครั้ง คือ การให้ความสำคัญกับคนที่เข้ามาทักทายเรา หรืออยากพูดคุยกับเรา ที่สำคัญตัวผมเองก็อยากพูดคุยกับคนๆ นั้น ด้วย ทำให้ตั้งใจว่า เช้านี้มาถึงแล้ว ยังไงก็ต้องหาโอกาสคุยกับคุณแฮรี่ (MR.HARRY JONAS) ให้ได้ เพราะเมื่อวานคุณแฮรี่ อุตส่าห์เดินมาทักทายผมที่รถ ก่อนผมจะกลับ แต่ด้วยความที่ผมตื่นเต้นบวกกับไม่เก่งภาษาอังกฤษ ทำให้ผมได้เพียงขอบคุณ แต่ไม่ได้พูดในสิ่งที่ควรจะพูดโํต้ตอบกลับไป อาจเพราะตัวผมเองมมีความกังวลใจสภาพร่างกายด้วย ดังนั้น ถ้าได้พบปุ๊บ จะต้องทักทายแก้มือให้ได้

และแล้วก็เป็นไปตามที่ตั้งใจ ผมรอคุณแฮรี่ที่หน้าประตู เหมือนเวลาเราดักพบใครสักคน พอเดินเข้ามา เราก็ทักทายเลย ผมจึงขอโทษคุณแฮรี่ และพูดในสิ่งที่อยากพูด ถึงตรงนี้ แม้ว่าจะไม่เก่งภาษาอังกฤษ ก็ดำน้ำไปเรื่อยๆ นะครับ ไม่ต้องกลัว มั่วไปเลยนะครับ คุณแฮรี่ยังปลอบใจมาเลยครับว่า เขาก็ไม่เก่งภาษาไทยเหมือนกัน จึงไม่ใช่ปัญหาในการสื่อสาร จากนั้นเราก็ต่างฝ่ายต่างชื่นชมถึงงานที่อีกฝ่ายทำ ปิดท้ายด้วย ก็คุยกันจนแลกนามบัตรและมีน้องมาตามว่างานเริ่มแล้ว

คุณแฮรี่ เป็นนักกฎหมาย และก่อตั้งองค์กร Future Law เพื่อใช้กฎหมายช่วยเหลือ เปลี่ยนแปลงสังคม และคุณแฮรี่ ยังเป็นรุ่นพี่ได้รับรางวัล Ashoka Fellow ทำให้ความรู้สึกสนิท เป็นไปได้เร็วขึ้นเหมือนคำกล่าวที่เราถูกปลูกฝังกันมาตั้งแต่รุ่นแรกๆ คือ พวกเราเป็น "ครอบครัวอโชก้า" ด้วยกัน เรื่องราวของคุณแฮรี่ สามารถอ่านเพิ่มเติมในตอนที่ 1/7 นะครับทุกท่าน


ผมกำลังพูดคุยกับคุณแฮรี่ แบบครอบครัวเดียวกัน "ครอบครัวอโชก้า"

นามบัตรของคุณแฮรี่ เราคงได้ติดต่อกันในความร่วมมืออื่นๆ ต่อไปในอนาคต

ภาพถ่ายหมู่ร่วมกันในช่วงเช้า "ครอบครัวอโชก้า"

สำหรับความประทับใจของกลุ่มผู้นำอโชก้า ทั่วโลกนั้น มีมุมมองหนึ่งที่ผมสังเกตมาหลายท่านแล้วพบว่า ทุกๆ ท่านมีสิ่งนี้ เรื่องนี้คล้ายๆ กัน คือ เรื่องของตัวเลข คุณแฮรี่ สามารถนำเสนอข้อมูลเป็นตัวเลข สถิติ เปอร์เซ็นต์ ให้ทุกท่านที่ร่วมสัมมนาได้ทราบว่า สมาชิกอโชก้าในประเทศไทยนั้น ส่วนใหญ่แล้ว งานที่ทำ งานที่ช่วยเหลือผู้อื่น ผู้เดือดร้อน นั้นเกี่ยวพัน สัมพันธ์ กับกฎหมายเป็นส่วนใหญ่ คุณแฮรี่ ซึ่งเป็นนักกฎหมาย จึงมุ่งมั่น ที่จะใช้กฎหมายสร้างการเปลี่ยนแปลงสังคม ซึ่งผมเห็นด้วยอย่างมากครับ

ผมขอทิ้งท้ายสำหรับบทความนี้ มีเรื่องหนึ่งที่ เราเห็นพ้องต้องกัน ส่วนตัวผมนั้นคิดตลอดมา ด้วยความรู้สึกที่ได้รับตั้งแต่ได้เข้ามาเป็น สมาชิกครอบครัวอโชก้า คือ "เราทุกคนเหมือนกัน มุ่งมั่นที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อมั่น กัดไม่ปล่อยในปัญหาเหล่านี้ มีความคิดสร้างสรรค์ และสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ท้าทาย และเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่มีใครทำมาก่อน"

ผมอยากเห็น สมาชิกอโชก้า เกิดขึ้นในประเทศไทยมากกว่านี้ แต่ต้องยอมรับว่า สำหรับในประเทศไทย ตามหลักเกณฑ์ของมูลนิธิอโชก้า จะค้นหาคนที่มีคุณสมบัติยากขึ้นเรื่อยๆ อันเนื่องจากอโชก้า ในปัจจุบันล้วนทำงานที่ครอบคลุมงานแทบทุกๆ ด้าน ในการช่วยเหลือสังคม อยู่แล้ว

ผมเชื่อว่า พวกเราทุกคน รอคอยการเกิดสมาชิกอโชก้า คนใหม่ขึ้นมาในประเทศไทยครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น